มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์.

มันเป็นที่อนุญาตสำหรับผู้หญิง ที่จะถอดฮิญาบของนางออก ต่อหน้ามะฮ์รอมของนาง.

มะฮ์รอมของผู้หญิง คือผู้ที่นางไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งงานด้วย เพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ใกล้ชิด (อย่างเช่น พ่อของนาง, ปู่ของนาง, ปู่ทวดของนาง, ฯลฯ, และลูกของนาง, หลานของนาง, เหลนของนาง, ฯลฯ, ลุงฝ่ายพ่อและลุงฝ่ายแม่ของนาง, พี่น้องชายของนาง, ลูกของพี่น้องชาย และลูกของพี่น้องหญิงของนาง), หรือเพราะโดยรอดออะฮ์ หรือความสัมพันธ์ทางการให้นม (อย่างเช่น ลูกชายและสามี ของผู้หญิงที่ให้นมนาง), หรือเพราะความสัมพันธ์ทางการแต่งงาน (อย่างเช่น สามีของแม่, พ่อของสามี, ปู่ของสามี, ฯลฯ., และลูกชายของสามี, หลานชายของสามี, ฯลฯ.). รายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้ จะถูกกล่าวถึงต่อไปด้านล่าง:

มะฮ์รอมโดยความสัมพันธ์ทางสายเลือด

เหล่านี้คือสิ่งที่ถูกกล่าวถึงในซูเราะฮ์ อันนูร, ที่อัลลอฮ์กล่าวว่า (ซึ่งแปลความหมายได้ว่า):

“… และจงอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่กับสามีของพวกนาง, หรือพ่อของพวกนาง, หรือพ่อของสามีของพวกนาง, หรือลูกชายของพวกนาง, หรือลูกชายของสามีของพวกนาง, หรือพี่น้องชายของพวกนาง หรือลูกชายของพี่น้องชายของพวกนาง, หรือลูกชายของพี่น้องหญิงของพวกนาง…” [อันนูร 24:31].

มุฟัซซิรีน กล่าวว่า : ผู้ชายที่เป็นมะฮ์รอมของผู้หญิง โดยความสัมพันธ์ทางสายเลือด, ตามที่ระบุชัดเจนในอายะฮ์นี้ หรือถูกชี้ให้เห็นโดยมัน นั้นมีดังนี้:

1- พ่อและบรรพบุรุษของผู้หญิงคนนั้นยาวขึ้นไปจนสุดสาย (ปู่,ทวด,เทียด ฯลฯ), ไม่ว่าจะย้อนขึ้นไปไกลแค่ไหนก็ตาม โดยผ่านพ่อและแม่ของนาง, อย่างเช่น บรรพบุรุษของพ่อของนาง และบรรพบุรุษของแม่ของนาง. ส่วนบรรพบุรุษของสามีของนาง, พวกเขาถือว่าเป็นมะฮ์รอมโดยการแต่งงาน, ดังที่เราจะเห็นต่อไปด้านล่าง.

2- ลูกชายของนาง, ซึ่งรวมถึงลูกของลูกของนางด้วย, ไม่ว่าจะย้อนลงไปแค่ไหนก็ตาม และไม่ว่าจะสืบเชื้อสายมาจากผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม, อย่างเช่น ลูกชายของลูกชายของนาง และลูกชายของลูกสาวของนาง. ส่วน “ลูกชายของสามีของนาง” ที่กล่าวถึงในอายะฮ์, เหล่านี้คือลูกชายของสามีกับภรรยาอื่น, และเหล่านี้เป็นมะฮ์รอมของนางโดยการแต่งงาน, ไม่ใช่โดยสายเลือด, ดังที่เราจะเห็นต่อไปด้านล่าง.

3- พี่น้องชายของนาง, ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องชายของพวกนาง โดยพ่อแม่เดียวกัน, หรือพ่อเดียวกันเท่านั้น หรือแม่เดียวกันเท่านั้นก็ตาม.

4- ลูกของพี่น้องของนาง, ไม่ว่าพวกเขาจะสืบเชื้อสายมาจากผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม, อย่างเช่น ลูกชายของลูกสาวของพี่น้องหญิงของนาง.

5- ลุง,อา,น้าฝ่ายพ่อ และลุง,อา,น้าฝ่ายแม่. พวกเขาเป็นมะฮ์รอมโดยสายเลือด แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ถูกกล่าวถึงในอายะฮ์ก็ตาม, เพราะพวกเขานั้นเป็นเหมือนพ่อแม่ และถูกถือว่าเป็นผู้ที่มีสถานะเหมือนกับพ่อแม่, และลุงฝ่ายพ่อ อาจถูกเรียกว่าพ่อ. อัลลอฮ์ กล่าวว่า (ซึ่งแปลความหมายได้ว่า):

“หรือเจ้าเป็นพยาน เมื่อความตายได้เข้ามาใกล้ยะอ์กูบ (เจค็อบ)? เมื่อเขากล่าวกับลูกชายของเขา, “พวกเจ้าจะอีบาดะฮ์อะไรหลังจากฉัน?” พวกเขากล่าวว่า, “เราจะอีบาดะฮ์ อิลละฮ์ (พระเจ้า — อัลลอฮ์) ของท่าน อิลละฮ์ (พระเจ้า) ของพ่อของท่าน, อิบรอฮีม (อับราฮัม), อิสมาอีล (อิชมาเอล), อิสฮาก (ไอแซค)…” [อัลบะกอเราะฮ์ 2:133]. อิสมาเอลนั้นเป็นลุงฝ่ายพ่อ ของลูกชายของยะอ์กูบ.

(ตัฟซีร อัรรอซี, 23/206; ตัฟซีร อัลกุรตุบี, 12/232, 233; ตัฟซีรอัลอาลูซี, 18/143; ฟัตฮุลบะยาน ฟี มะกอซิด อัลกุรอ่าน โดย ซิดดีก ฮาซัน คาน, 6/352)

มะฮ์รอมโดยรอดออะฮ์ (ความสัมพันธ์ทางการให้นม)

ผู้หญิงคนหนึ่งอาจมีมะฮ์รอมผ่านรอดออะฮ์. มันถูกกล่าวใน ตัฟซีร อัลอาลูซี:

“ความสัมพันธ์ของมะฮ์รอม ซึ่งได้อนุญาตผู้หญิงคนหนึ่ง ในการเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง อาจเป็นผ่านรอดออะฮ์ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ทางสายเลือด, ดังนั้นมันจึงเป็นที่อนุญาตสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ในการเปิดเผยเครื่องประดับของนาง ให้ผู้ที่เป็นพ่อของนางผ่านรอดออะฮ์ หรือลูกชายของนางผ่านรอดออะฮ์ (พ่อและลูกชายที่มีความสัมพันธ์ทางการให้นม).”

(ตัฟซีร อัลอาลูซี. 18/143) ความสัมพันธ์ของมะฮ์รอมโดยรอดออะฮ์ นั้นเหมือนกันกับความสัมพันธ์ของมะฮ์รอมโดยสายเลือด – มันหมายถึงว่าการแต่งงานนั้นถูกห้ามโดยถาวร โดยอาศัยความสัมพันธ์ของมะฮ์รอมดังกล่าว. นี่คือทัศนะที่ถูกระบุโดย อีหม่าม อัลญัซซอซ เมื่อท่านได้อธิบายเกี่ยวกับอายะฮ์นี้. ท่าน (ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาท่าน) กล่าวว่า : “เมื่ออัลลอฮ์กล่าวถึงบรรดาพ่อ และการแต่งงานของพวกเขากับผู้หญิงเหล่านี้ นั้นถูกห้ามโดยถาวร, สิ่งนี้บ่งชี้ว่าการห้ามเดียวกันนี้ ถูกใช้ในความสัมพันธ์ของมะฮ์รอมแบบอื่นๆด้วย, อย่างเช่น แม่ของผู้หญิง (แม่ของภรรยา) และบรรดาผู้ที่เป็นมะฮ์รอมโดยรอดออะฮ์ (มะฮ์รอมโดยการให้นม), ฯลฯ.” (อะฮ์กาม อัลกุรอ่าน โดย อัลญัซซอซ, 3/317).

สิ่งเดียวกันที่ถูกทำให้ฮารอมในความสัมพันธ์โดยรอดออะฮ์ นั้นก็เหมือนกันกับความสัมพันธ์ทางสายเลือด.

มันยังถูกกล่าวในซุนนะฮ์ว่า : “สิ่งเดียวกันที่ถูกทำให้ฮารอมในความสัมพันธ์โดยรอดออะฮ์ นั้นก็เหมือนกันกับความสัมพันธ์ทางสายเลือด.” สิ่งนี้หมายถึงว่า ผู้ที่เป็นมะฮ์รอมกับผู้หญิงคนหนึ่งโดยสายเลือด นั้นก็เหมือนกันกับมะฮ์รอมโดยรอดออะฮ์. มันถูกรายงานในซอฮิฮ์มุสลิมว่า อะอีชะฮ์ อุมมุลมุมีนีน (ขออัลลอฮ์ทรงพอใจนาง) กล่าวว่า อัฟละฮ์ พี่น้องชายของอบูกุอัยซ์ได้มา และขออนุญาตพบนาง. เขาเป็นลุงของนางผ่านรอดออะฮ์. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮิญาบได้ถูกประทานลงมาแล้ว, ดังนั้นนางจึงปฏิเสธที่จะอนุญาตเขา. เมื่อท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ขอความสันติและพรจากอัลลอฮ์จงมีแด่ท่าน) ได้มา, นางก็ได้บอกท่านเกี่ยวกับสิ่งที่นางได้ทำ และท่านก็ได้บอกนางให้อนุญาตเขา.

(ซอฮิฮ์ อัลบุคอรี บี ชัรฮ์ อัลอัซกอลานี, 9/150). ฮาดิษนี้ยังถูกรายงานโดยอีหม่ามมุสลิมอีกด้วย, ด้วยสำนวนว่า : จาก อุรวะฮ์ จาก อาอีชะฮ์, : ซึ่งได้บอกเขาว่า ลุงของนางผ่านรอดออะฮ์, ที่ถูกเรียกว่า อัฟละฮ์, ได้ขออนุญาตพบนาง และนางไม่ได้อนุญาตเขา. นางได้บอกกับท่านศาสนทูต (ขอความสันติและพรจากอัลลอฮ์จงมีแด่ท่าน) และท่านก็ได้บอกกับนางว่า, “ไม่ต้องใส่ฮิญาบต่อหน้าเขา, เพราะความสัมพันธ์ของมะฮ์รอมที่ถูกสร้างโดยรอดออะฮ์ นั้นก็เหมือนกันกับความสัมพันธ์ทางสายเลือด.” (ซอฮิฮ์ มุสลิม บิ ชัรฮ์ อันนะวาวี, 10/22)

มะฮ์รอมของผู้หญิงโดยรอดออะฮ์ นั้นก็เหมือนกันกับมะฮ์รอมของนางทางสายเลือด

ตามที่สอดคล้องกับกุรอ่านและซุนนะฮ์, บรรดาฟุกอฮะอ์ได้ระบุว่า มะฮ์รอมของผู้หญิงผ่านทางรอดออะฮ์ นั้นก็เหมือนกันกับมะฮ์รอมของนางผ่านทางสายเลือด. มันเป็นที่อนุญาตสำหรับนาง ในการเปิดเผยเครื่องประดับของนาง ต่อหน้ามะฮ์รอมของนางโดยรอดออะฮ์ เช่นเดียวกับที่มันเป็นที่อนุญาตสำหรับนาง ในการเปิดเผยเครื่องประดับของนาง ต่อหน้ามะฮ์รอมของนางโดยสายเลือด. มันเป็นที่อนุญาตสำหรับมะฮ์รอมของนางโดยรอดออะฮ์ ที่จะมองสิ่งใดก็ตามในร่างกายของนาง ที่มันเป็นที่อนุญาตสำหรับมะฮ์รอมของนางผ่านทางสายเลือด.

มะฮ์รอมโดยการแต่งงาน

มะฮ์รอมผู้หญิงโดยการแต่งงาน คือบรรดาผู้ที่มันถูกห้ามแต่งงานอย่างถาวร, อย่างเช่น ภรรยาของพ่อ, ภรรยาของลูกชาย หรือแม่ของภรรยา.

(ชัรฮ์ อัลมุนตะฮา, 3/7).

มะฮ์รอมโดยการแต่งงาน ในส่วนของภรรยาของพ่อ ก็คือลูกชายของเขา (ลูกชายของพ่อ) จากภรรยาอื่น, ในส่วนของภรรยาของลูกชาย ก็คือพ่อของเขา (พ่อของลูกชาย), และในส่วนของแม่ของภรรยา ก็คือสามี (ของภรรยา). อัลลอฮ์ได้กล่าวไว้ใน ซูเราะฮ์ อันนูร (ซึ่งแปลความหมายได้ว่า):

“… และจงอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่กับสามีของพวกนาง, หรือพ่อของพวกนาง, หรือพ่อของสามีของพวกนาง, หรือลูกชายของพวกนาง, หรือลูกชายของสามีของพวกนาง…” [อันนูร 24:31]. พ่อของสามีของพวกนาง และลูกชายของสามีของพวกนาง นั้นเป็นมะฮ์รอมของผู้หญิงโดยการแต่งงาน. อัลลอฮ์ได้กล่าวถึงพวกเขา พร้อมกับพ่อและลูกชาย (ของพวกนาง), และทำให้พวกเขานั้น เหมือนกันในแง่ที่ ผู้หญิงสามารถเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนางต่อหน้าพวกเขาได้.

(อัลมุฆนี, 6/555)

ที่มา : เชค มูฮัมมัด ซอและฮ์ อัลมุนัจญิด